ทริปถ่ายภาพ : เลห์ ลาดักห์ ซันสการ์ 17-26 กรกฏาคม 2017 รับ 18 ท่าน (เต็มแล้ว)

เลห์ ลาดักห์ ซันสการ์ เมืองแห่งวัฒนธรรมทิเบต หรือทิเบตน้อย ดินแดนที่ซ่อนเร้นในอ้อมกอดหิมาลัย เป็นชุมทางการค้าขายของ 1 ใน 3 เส้นทางสำคัญของแห่งหิมาลัยโบราณ เป็นศูนย์รวมทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่และอารยธรรมเก่าแก่ของชนชาวทิเบต เมืองสวยบนที่ราบสูง สัมผัสภูมิประเทศแปลกตาบนเทือกเขาที่มีภูเขาหิมะสลับฉากให้เห็นเป็นบางช่วง ทะเลสาบน้ำเค็ม หุบเขาดอกไม้ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนบนดินแดนสูงเกือบที่สุดของโลก ใช้เวลา 10 วัน 9 คืน เดินทางโดยสายการบิน AIR INDIA

นำทริปโดย อาจารย์กนิษ เทพศรีเมือง ช่างภาพเกียรตินิยมอังกฤษ ผู้เริ่มต้นถ่ายภาพหรือยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน ก็สามารถเข้าร่วมทริปถ่ายภาพนี้ได้ (ทริปนี้เราจะได้ถ่ายภาพเทศกาลระบำหน้ากากประจำปี ของชาวซันสการ์ และถ่ายภาพทางช้างเผือกกันด้วย)

อาการแพ้ความสูง (Altitude Sickness) : เลห์ ลาดักห์ ซันสการ์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 3,500-4,400m ซึ่งผู้เดินทางจะมีอาการแพ้ความสูง คือปวดศีรษะ เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย เนื่องจากปริมาณ Oxygen น้อยกว่าที่ราบ  ทีมงานจะเตรียมยา Diamox ไปให้ทุกท่าน และขอความร่วมมือให้ทำกิจกรรมต่างๆให้ช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะวันแรกที่ไปถึงเลห์ ก่อนเดินทางควรออกกำลังกายโดยการเดินเร็วหรือวิ่ง 3 ครั้ง/สัปดาห์ ครั้งหนึ่งอย่างน้อย 30 นาที จะช่วยได้มากครับ

รายละเอียดการเดินทาง
วันแรก จันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2017 : กรุงเทพฯ – เมืองเดลี
เวลา 6.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10  แถว W เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR INDIA 08.55 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ด้วยเที่ยวบินที่ AI 333 เวลา 12.00 หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เดินทางไปชมสถาปัตยกรรมที่ India Gate หรือประตูสู่อินเดีย จากนั้นไปถ่ายภาพที่ Jama Masjid ซึ่งงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมรูปแบบมุสลิม รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร เข้าพักที่ COUNTRY INN SUITE  ระดับ 4 ดาว

วันที่สอง อังคารที่ 18 กรกฎาคม 2017 : เมืองเดลี – เมืองเลห์ – เมืองลามายูรู
05.55 น. ออกเดินทางสู่เมืองเลห์ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งลาดัคห์ เมืองท่องเที่ยวสำคัญในแคว้นจัมมูแคชเมียร์ โดยสายการบิน AIR INDIA ด้วยเที่ยวบินที่ AI 445 ถ่ายภาพเทือกเขาหิมาลัยยามพระอาทิตย์ขึ้นจากเครื่องบิน เวลา 07.15 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองเลห์ ซึ่งสูง 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตัวเมืองมีวัฒนธรรมของชาวธิเบตให้ได้สัมผัสเปรียบเสมือนกำลังอยู่ในประเทศธิเบต ถ่ายภาพพระราชวังเลห์ และความงดงามของเมืองเลห์ ชมเจดีย์สันติภาพ เป็นอนุสรณ์สถานแห่งการระลึกถึง พระพุทธศาสนาอายุครบ 2,500 ปี และเป็นจุดถ่ายภาพและชมทิวทัศน์ของเมืองเลห์และพระราชวังเลห์ได้อย่างสวยงาม
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไปยังลามายูรู ระหว่างทางเราจะแวะถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ วัดลามะยูรู ตั้งอยู่บนยอดเขาหินทรายของภูมิประเทศแบบพื้นผิวดวงจันทร์ ลามะยูรูจึงเป็นสถานที่แปลกแยก แปลกตา และลึกที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่จะหาได้ในหลังคาโลกนี้ วัดลามะยูรู มีอีกชื่อหนึ่งว่า ยุงตรุง ทาปาลิง กอมปา (ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพระอรหันต์นิมากุง จารึกผ่านมาถึงที่นี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน บริเวณนี้เคยเป็นทะเลสาบอยู่ท่านทำนายว่าจะมีวัดมาเจริญศาสนา ณ สถานที่นี้ท่านจึงได้ตั้งเสาธงมนตราไว้เป็นหมุดหมายสำคัญพร้อมกับแผ่กุศลทานด้วยการโปรยเมล็ดข้าวโพดแด่ดวงวิญญาณของนาคที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ต่อมาเมล็ดข้าวโพดกลับงอกงามขึ้นเป็นรูปเครื่องหมาย สวัสติกะ จากนั้นเมื่อท่านริมโปเช ซังโป ( Rinchen-zang-po ) พาลามะจากอาณาจักรกูเก ( Guge Kingdom ) ของทิเบตตะวันตก มาสร้างวัดตามคำทำนายจึงตั้งชื่อวัดในนาม ยุงตรุง ซึ่งในภาษาทิเบตหมายถึง สวัสติกานั้นเอง ภายในเขตสังฆดินแดนของลามะยูรู เมื่อแรกสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความเก่าแก่ของอารามที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ผนังวัดที่ก่อด้วยอิฐโคลนตากแห้ง ผนังฉาบโคลน พื้นดินเหนียว มีเสาเป็นไม้ทาสีแดงประดับลวดลายแกะสลักวิจิตร เรือนหลังคามีเพียงคานไม้รับน้ำหนักกระเบื้องไว้ แม้ผ่านเวลามาเนิ่นนานก็ยังดูแข็งแรง รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม พักที่ HOTEL MOON LAND ถ้าไม่เหนื่อยเกินไปคืนนี้เราจะถ่ายดาวกันครับ

วันที่สาม พุธที่ 19 กรกฎาคม 2017 : เมืองลามายูรู – เมืองคาร์กิล – เมืองรังดุม
เช้าถ่ายภาพแสงแรกที่กระทบวัดลามายูรูซึ่งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย รับประทานอาหารที่โรงแรม แล้วเดินทางสู่คาร์กิล เมืองชุมทางสำคัญที่สุดบนถนนสาย เลห์-ศรีนาการ์ คาร์กิล ( Kargil ) เป็นเมืองมุสลิมตั้งอยู่บนที่สูงถึง 2,817 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อุณหภูมิช่วงเดือนสิงหาคมไม่หนาวมาก คาร์กิลคือเมืองที่เชื่อมโยงเส้นทางการค้าขายระหว่าง ศรีนาการ์-เลห์ เป็นเมืองใหญ่ริมแม่น้ำสินซูรู (Suru ) ชาวเมืองคาร์กิลกว่าแสนคนและเกือบทั้งหมดที่อยู่อาศัยย่านตัวเมืองและรอบๆ เป็นมุสลิม เชีย ( Shia ) ทั้งเชื่อสายทิเบตดังเดิม และเชื้อสายเปอร์เชียที่เข้ามาอยู่รวมกันภายหลัง ยังมีฮินดูและซิกข์อยู่รวมอีกเพียงเล็กน้อย ถนนสายนี้จะมีการเปิดให้ใช้เส้นทางเฉพาะช่วงต้นเดือนกรกฎาคมจนไม่เกินต้นเดือนตุลาคม ระหว่างทางคุณจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติที่แปลกตาทั้งสองฝั่งริมทาง รับประทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไปยังเมืองแซงกู จากนั้นออกเดินทางสู่หุบเขาจันสการ์ ระหว่างทางสามารถมองเห็นยอดเขาคุน ( Kun ) สูง 7,090 เมตร และยอดเขานุน ( Nun ) สูง 7,135 เมตรพร้อมกับลำธารน้ำแข็งปรากฎอยู่ทางขวามือ ยอดเขาฝาแฝดคุนและนุน มีความสูงที่สุดในแดนลาดักห์แห่งนี้ สามารถมองได้จากหมู่บ้านปานิกาและหมู่บ้านปาร์กาชาน เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านรังดุม Rangdum หมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ห่างจากคาร์กิลประมาณ 98 กม.ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. พักที่ Rangdum

วันที่สี่ พฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2017 : เมืองรังดุม – เมืองปาดัม
ถ่ายภาพแสงเช้าแล้วรับประทานอาหาร จากนั้นถ่ายภาพที่วัดรังดุม (Rangdum Monastery) วัดพุทธนิกายวัชรยานสายเกลุคปะ (Gelugpa sect) แห่งแรกก่อนเดินทางถึงซานสการ์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาเล็ก ๆ ในหุบเขาซูรู ด้วยความสูง 3,657 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล วัดรังดุมสร้างขึ้นเพื่อปกป้องสิ่งชั่วร้ายให้แก่หมู่บ้านเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนเนินเขาริมแม่น้ำซูรู บริเวณวัดเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามอีกแห่ง จากนั้นลัดเลาะขึ้นลงตามไหล่ ชมหน้าผา โตรกธารและเลาะเรียบแม่น้ำซูรู (Suru) ถ่ายภาพภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนกว้างใหญ่ ลำธารน้อยใหญ่และ ดราน ดรุง กลาเซียร์ (Dran Drung Glacier) ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด บนเส้นทางปานซี-ลา (Pansi-la) ที่ความสูง 4,406 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และยอดเขานัน คุน Nun Kun Peak และแวะถ่ายภาพที่จุดถ่ายภาพ “Welcome to Zanskar Valley” แห่งเทือกเขาจันสการ์ซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของความเป็นธรรมชาติหลังม่านของความศิวิไลซ์ ออกเดินทางสู่ปาดัม Padum เมืองเอกของดินแดนจันสการ์ ซึ่งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. พักที่ โรงแรม Hotel Zambala โรงแรมพื้นเมือง

วันที่ห้า ศุกร์ที่ 21 กรกฏาคม 2017 : เทศกาลระบำหน้ากาก – เมืองปาดัม
รับประทานอาหารเช้า แล้วไปถ่ายภาพเทศกาลระบำหน้ากากที่วัดคารซ่า (Karsha Gonpa) ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาจันสการ์ ช่วงบ่ายไปวัดของหมู่บ้านเก่าแก่ปิบิติ้ง (Village of Pibiting) และวัดเก่าแก่บนยอดเขา เที่ยวเมืองปาดัม (Padum) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรจันสการ์ ปาดัมอยู่สูง 3,505 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ปัจจุบันเป็นเมืองที่สำคัญของเขตนี้ และเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยม ชมวัดสตองเดย์ Stongdey Gompa เป็นวัดพุทธที่สำคัญแห่งหนึ่งของหุบเขา Zanskar วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1052 โดยลูกศิษย์ของท่าน Naropa ซึ่งท่านเป็นลามะนักแปลภาษาที่มีชื่อเสียงลามะ Marpa Lotsawa (ในช่วงปี 1012-1097) วัดนี้ถูกยึดครองโดย Gelugpa ประมาณสี่ศตวรรษต่อมาและสุดท้ายกลายเป็นวัดที่สร้างให้กับท่าน Je Tsongkhapa วัดนี้เป็นสถาบันสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองใน Zanskar โดยมีพระลามะอาศัยอยู่ประมาณ 60 ทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาล Gustor จะจัดขึ้น ในวันที่ 28 และ 29 ในเดือนที่สิบเอ็ดของปฏิทินทิเบต แล้วไปวัดซานลา (Zangla Gompa) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 35 กิโลเมตรทางทิศเหนือของปาดัม พักที่ โรงแรม Hotel Zambala โรงแรมพื้นเมือง

วันที่หก เสาร์ที่ 22 กรกฏาคม 2017 : เมืองปาดัม – เมืองคาร์กิล
ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางกลับสู่เมืองคาร์กิล ระหว่างทางแวะถ่ายรูปตลอดเส้นทางเดินทางถึงเมืองคาร์กิลแล้วรับประทานอาหารเย็น เข้าที่พัก Hotel Saichen 3 ดาวแบบพื้นเมือง

วันที่เจ็ด อาทิตย์ที่ 23 กรกฏาคม 2017 : เมืองคาร์กิล – เมืองเลห์
ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น รับประทานอาหารเช้า จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองเลห์ ผ่านยอดฟูทูล่า จุดที่สูงที่สุดของเส้นทางศรีนากา-เลห์ ด้วยระดับความสูงที่ 4,118 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เดินทางต่อไปเมืองเลห์ แวะถ่ายรูปตลอดเส้นทาง รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม เข้าพักที่ HOLIDAY LADAKH HOTEL ระดับ 4 ดาวแบบพื้นเมือง

วันที่แปด จันทร์ที่ 24 กรกฏาคม 2017 : เมืองเลห์ – ทะเลสาบพันกอง
ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือยอดเขาหิมาลัย โดยมีเมืองเลห์เป็นฉากหน้า รับประทานอาหารเช้าแล้วออกเดินทางสู่ทะเลสาบพันกอง ซึ่งจะผ่าน ชางลา เส้นทางรถยนต์ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกสูง 17,350 ฟุต ระว่างทางแวะชม พระราชวังเชย์ สร้างโดยกษัตริย์ เดลดาล นัมเยล เมื่อต้นศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เป็นพระบิดาเซงเจ นัมเยล กำแพงพระราชวังถูกฉาบด้วยทองคำผสมทองแดงสร้างเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์แห่งลาดัคห์ ภายในมีรูปปั้นของพระศรีศากยมุณีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ชมพิพิธภัณฑ์ สตอคพาเลส เป็นที่ประทับของราชวงศ์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1825 ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมและสะสมของใช้เครื่องแต่งกายของราชวงศ์เช่นมงกุฎ พระภูษา รองพระบาท ชมวัดธิคเซย์ สร้างในปี ค.ศ. 1430 ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนเหนือของแม่น้ำอินดัส อยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของเลห์ 18 กิโลเมตร ถือว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดของลาดัคห์และเป็นวัดของนิกายเกลุคปา ภายในประดิษฐานพระศรีอารยะเมตไตรย์ รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง ถ่ายภาพที่ทะเลสาบพันกอง ซึ่งมีความยาวถึง 40 ไมล์ และกว้าง 2-4 ไมล์ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงสุดในโลก โดยมีความสูงถึง 14,256 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชมความงามของทะเลสาบที่มีภูเขาสูงเป็นฉากหลัง น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีสีสันที่งดงามมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็นน้ำจะมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนในช่วงเช้าจะมีสีที่อ่อนกว่า และพื้นที่ 75% ของทะเลสาบอยู่ในดินแดนทิเบต อีก 25% อยู่ในเขตของประเทศอินเดีย รับประทานอาหารค่ำ พักที่ สวิสเต้นท์ สะดวกสบายเพราะมีห้องอาบน้ำและห้องสุขาอย่างดีอยู่ในอีกห้องหนึ่งภายในเต้นท์ และสามารถชมทิวทัศน์ริมทะเลสาบพันกองได้ตลอดทั้งคืน ถ้าฟ้าเปิดเราก็จะตั้งกล้องถ่ายดาวกัน พักที่ Pangong Resort

วันที่เก้า อังคารที่ 25 กรกฏาคม 2017 : ทะเลสาบพันกอง – เมืองเลห์
ถ่ายภาพทิวทัศน์และวิถีชีวิตริมทะเลสาบ รับประทานอาหารเช้า เดินทางกลับสู่เมืองเลห์ ชมวัดเฮมิส อยู่ห่างจากเมืองเลห์ประมาณ 45 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี 1672 โดยกษัตริย์ เซงเจ นัมเยล อายุ 337 ปี เป็นวัดของนิกาย ดรุกปา ของพุทธศาสนาแบบทิเบต รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง แวะถ่ายภาพที่ วัดเซโม เป็นวัดที่สร้างใน ค.ศ. 1430 โดยกษัตริย์ ตาชิ นัมเยล ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสูงขนาดใหญ่สูงประมาณตึก 3 ชั้น และพระคัมภีร์เก่าแก่ เหนือตัววัดเป็นป้อมปราการเมืองเก่า และสามารถชมวิวเมืองเลห์ได้งดงาม รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม พักที่ HOLIDAY LADAKH HOTEL ระดับ 4 ดาวแบบพื้นเมือง

วันที่สิบ พุธที่ 26 กรกฏาคม 2017 : เมืองเลห์ – เมืองเดลี – กรุงเทพฯ
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม 08.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองเลห์เพื่อกลับเมืองเดลี โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 446 เวลา 13.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯโดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 332 ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพในเวล 19.35 น.

ค่าใช้จ่าย : (10 วัน บินทั้งหมด 4 ไฟลท์ ผู้เดินทาง 18 ท่าน)
ท่านละ 58,900 บาท กรณีพักเดี่ยว ชำระเพิ่ม 9,500 บาท หลังจากกรอกใบสมัครแล้ว รอรับอีเมลรายละเอียดชำระมัดจำ 20,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน

ค่าใช้จ่ายนี้รวม :
– ค่าวิทยากร ตลอดการเดินทาง
– ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศชั้นประหยัด ไป-กลับ Bangkok / Delhi / Bangkok
– ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศชั้นประหยัด ไป-กลับ Delhi / Leh / Delhi
– ค่าโรงแรมที่พัก 3- 4 ดาวพร้อมอาหารเช้า (พักห้องละ 2 ท่าน) 9 คืน
– ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
– ค่าอาหารทุกมื้อ
– ค่ารถเดินทางภายในประเทศ (รถจี๊ปคันละ 3 ท่าน เพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพ)
– ค่ามัคคุเทศก์

ค่าใช้จ่ายไม่รวม :
– ค่าธรรมเนียมวีซ่า และค่าประกันอุบัติเหตุ รายละเอียดการขอวีซ่าดูได้ที่นี่

การเตรียมตัว :
– กล้อง และเลนส์ทางยาวโฟกัส 17mm หรือ 24mm หรือ 28mm ถึง 200หรือ 300mm เตรียม Battery และ Memmory card ให้เพียงพอ
– ขาตั้งกล้อง สายลั้นชัตเตอร์ อุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ภาพ และ Filter Lee 0.9 หรือ 1.2 ND Soft Grad (ถ้ามี)
– อุปกรณ์กันหนาว ครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด และรองเท้าที่สวมสบาย
– ยารักษาโรคประจำตัว

<< ทริปถ่ายภาพทั้งหมด

เงื่อนไขการเดินทาง :
– การยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรือหักค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ได้ชำระกับสายการบิน หรือค่ามัดต่างๆไม่ว่าโดยตรงหรือโดยผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งไม่อาจขอคืนเงินได้
– การยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50 % ของราคา หรือหักค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ได้ชำระกับสายการบิน หรือค่ามัดจำต่างๆไม่ว่าโดยตรงหรือโดยผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งไม่อาจขอคืนเงินได้
– การยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-6 วัน เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %
– ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย หรือเหตุการณ์ร้ายแรงที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัท เช่น สภาพอากาศ การนัดหยุดงาน การประท้วง การก่อจลาจล การเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ รวมทั้งกรณีที่สายการบินเกิดล่าช้าหรือขัดข้อง จนไม่อาจต่อเครื่องได้ทันตามกำหนดการเดิม ฯลฯ หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า อุบัติเหตุ หรือปัญหาการจราจรต่างๆ รวมถึงการตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง เนื่องจากเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ บริษัทจะพยายามแก้ไขสถานการณ์โดยคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางส่วนใหญ่ไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ผู้เดินทางจะต้องออกค่าใช้จ่ายที่อาจมีเพิ่มเติมเองตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และหากมีเหตุสุดวิสัยต้องลดรายการการเดินทาง บริษัทจะคืนค่าใช้จ่ายให้ตามที่ได้รับคืนจริง
– บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 20 วันก่อนการเดินทาง
– เมื่อกรอกใบสมัครและชำระมัดจำแล้ว ถือว่ายอมรับเงื่อนไขการเดินทาง

ดูรายละเอียด ทริปถ่ายภาพและหลักสูตรอื่นๆ คลิกด้านล่างนี้ครับ

LINE it!